ถ้าคุณกำลังนั่งอ่านเนื้อหานี้อยู่บนม้านั่งที่โล่งแจ้งที่ดวงตะวันส่งแสงลงมากระทบผิวหนังให้เพียงพอรู้สึกอุ่นๆหรือกำลังเลื่อนจอสมาร์ตโฟนอ่านอยู่ข้างในบ้านที่สว่างไสวไปด้วยแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้า ลืมความสว่างนี้ไปครู่เดียวก่อนนะคะ
วันนี้จะประสานมือพาทุกคนดำตรงลงไปสู่ห้วงของเว็บไซต์อันมืดมากที่แสงสว่างอะไรก็แล้วแต่ก็ไม่บางทีอาจรุกรานเข้าไปถึง
พวกเราจะไปแอบมอง ดาร์ค เว็บไซต์ กันจ้ะ
ดาร์ค เว็บไซต์ (Dark Web) เป็นเขตหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่คนธรรมดาทั่วไปไม่เห็น เข้าถึงมิได้ เสิร์ชไม่พบด้วยเหตุว่าผิดรวมอยู่ในคำตอบการค้นหา ราวกับสโมสรลึกลับที่ปิดบังประตูปากทางเข้าเอาไว้ให้ไกลหูไกลตาคนธรรมดาทั่วไป ถ้าหากจะย่างกรายเข้าไปก็จำเป็นจะต้องใช้ซอฟท์แวร์พิเศษ ทุกคนบนดาร์ค เว็บไซต์ มีความเป็นนิรนาม ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ใช้งานหรือฝั่งคนทำเว็บไซต์ พิจารณาย้อนกลับไปก็ไม่พบต้นทาง
สถานที่ดำสนิทล่องหนไม่มีตัวตนแบบงี้ เพียงพอจะนึกออกไหมขาว่าเขาเอาไปทำอะไรกัน จริงๆก็คงจะทายใจไม่ยากเลย ตรงไหนมีความนิรนาม ตรงนั้นย่อมตามมาด้วยด้านที่ไม่มีอารยธรรมแล้วก็ดิบที่สุดของผู้คนนั่นแหละ
ของที่ผู้บริโภคขายแลกกันบนดาร์ค เว็บไซต์ โดยมากเป็นของที่ไม่ถูกกฎหมายบนเว็บไซต์ปกติ ยกตัวอย่างเช่น ภาพโป๊เยาวชน สิ่งเสพติด ยาที่ไร้ใบอนุญาต เอกสารเลียนแบบ เงินปลอม อาวุธ อื่นๆอีกมากมาย
ฟังมองแบบงี้แล้วหลังจากนั้นก็บางครั้งอาจจะคิดว่า เอ...ก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับพวกเราสักเท่าไหร่ ใครกันแน่ต้องการทำอะไรก็คือเรื่องของเขาสิ พวกเราอย่าเอาตนเองเข้าไปยุ่งด้วยก็คงจะพอแล้ว แม้กระนั้นโชคร้ายที่มันไม่เป็นเช่นนั้นน่ะสิขา เพราะว่าหนึ่งในชนิดของที่คนกลุ่มนี้เขาค้าขายกันมันดันมาเกี่ยวกับตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งซึ่งก็คือ ข้อมูลส่วนตัวทั้งหลายแหล่ที่ลักขโมยมาจากบนอินเทอร์เน็ตจ้ะ
ข้อมูลส่วนตัวที่แฮ็กเกอร์ได้มาจากการแฮ็กระบบหรือบริการต่างๆเขามิได้นำไปใช้เองสักเท่าไหร่หรอกนะคะ เอาไปขายบนดาร์ค เว็บไซต์ ได้เงินมากมายกว่า คนใดกันแน่จะซื้อถัดไปทำช้างทำม้าอะไรก็ไม่ใช่ธุระของแฮ็กเกอร์แล้ว
พวกเราลองมองราคาของข้อมูลส่วนตัวที่ถูกแฮ็กและจากนั้นจึงนำไปขายต่อบนดาร์ค เว็บไซต์ กันนะคะ ข้อมูลอย่างจำนวนประกันสังคม ขายกันที่ประมาณ1 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ 20 ดอลลาร์ฯ ข้อมูลที่ใช้ล็อกอินเข้าไปบนเว็บเพื่อทำธุรกรรมทางด้านการเงินต่างๆราคาเริ่มตั้งแต่ 20 ไปจนกระทั่ง 200 ดอลลาร์ บัตรเครดิต แบบที่มีตัวเลข CVV สามตัวข้างหลังบัตร ราคาขายที่ 5 ดอลลาร์ หากมีเนื้อหาแบงค์ด้วย ราคาจะเพิ่มเป็น 15 ดอลลาร์ ในเวลาที่ข้อมูลบัตรเครดิตที่ได้มาครบถ้วนสมบูรณ์แบบฟูลแพ็ก ราคาก็จะอัพขึ้นไปมากถึงใบละ 30 ดอลลาร์ วุฒิบัตร 100-400 ดอลลาร์ ข้อมูลบันทึกด้านการแพทย์ของผู้เจ็บป่วย 1-1,000 ดอลลาร์ แล้วก็หนังสือเดินทาง ราคาขายมากที่สุด อยู่ที่ 1,000-2,000 ดอลลาร์เลยนะ
ต้นแบบการค้าขายกันก็มีอยู่ 3 แบบ 1. ซื้อข้อมูลแบบข้อมูลเดียว อย่างเช่น จิ้มซื้อว่าเอาจำนวนประกันสังคมหนึ่งเลข 2. ซื้อแบบก้อนใหญ่ ข้อมูลเหมือนกันแม้กระนั้นซื้อเป็นล็อตใหญ่ แล้วก็ 3. ข้อมูลแบบผูกเหมารวมกันเป็นแพ็กเก็จ ใช้เพื่อการปลอมอัตลักษณ์ หรือปลอมตัวเป็นบุคคลอื่นนั่นแหละจ้ะ
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าตกใจมากมายเมื่อได้ทราบว่านี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เขาซื้อเขาขายกันบนดาร์คเว็บไซต์ ก็คือ “เนื้อหาสาระเกี่ยวกับทารก” จ้ะ
ข้อมูลกล่าวว่าหนึ่งในตลาดมืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนดาร์ค เว็บไซต์ มีการค้าขายจำนวนประกันสังคมของเด็กอ่อน พร้อมๆกับเนื้อหาเกี่ยวกับวันเกิด รวมทั้งชื่อของแม่ด้วย แพ็กเก็จเต็มๆแบบงี้ราคาแพงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอยู่ที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา รวมทั้งจ่ายในแบบอย่างเงินบิตรอน์ ส่วนผลดีใช้สอยที่ทำให้ข้อมูลทารกมีมูลค่าสูงขนาดนี้เพราะเป็นข้อมูลที่ใหม่มากขาวสะอาดไม่มีความมัวหมอง (ก็แน่สิ พึ่งจะเกิดขึ้นมาได้กี่วันเอง) เพราะฉะนั้นก็เลยเหมาะแก่การนำไปใช้ในลัษณะของการสวมอัตลักษณ์แทน เพื่อนำไปใช้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากรัฐบาล หรือไปทำธุรกรรมการคลังก็ได้
ปิดท้ายด้วยข่าวล่าสุดที่สร้างความงงให้เกิดขึ้นมากกว่า รู้ไหมค่ะว่า เซลฟี้ที่พวกเราชูกล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายหน้าตนเองกันเนี่ย เขาก็จำหน่ายกันบนดาร์ค เว็บไซต์ ด้วย!
บริษัทซิกข์ซ์กิลล์ บริษัทเชื้อชาติอิสราเอลที่ปฏิบัติหน้าที่สำหรับเพื่อการตรวจดาร์ค เว็บไซต์ พบว่ามีการลงข้อมูลขายบนดาร์คเว็บไซต์ภาษารัสเซีย ซึ่งเป็นข้อมูลที่แปลกจากธรรมดา ด้วยเหตุว่าคำประกาศขายบอกว่าเว้นแต่ข้อมูลล็อตนี้จะประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ที่อยู่ แล้ว ก็ยังมีภาพ “เซลฟี้” รวมอยู่ในนั้นด้วย ถือเป็นการประสบพบเห็นการขายของเซลฟี้บนดาร์ค เว็บไซต์ เป็นครั้งแรกอย่างยิ่งจริงๆ
แล้วเอาเซลฟี้ไปทำอะไร? หากมีเพียงแค่ภาพเซลฟี้เฉยๆก็บางทีก็อาจจะมิได้มีสาระอะไรมากมายก่ายกอง แต่ว่าเมื่อเอาไปรวมกับรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ก็อาจส่งผลให้ก่อคดีขึ้นมาได้ ลองคิดดูนะคะว่าช่วงนี้แบงค์บางที่ หรือแม้กระทั้งธุรกิจจำพวกอื่นๆดังเช่นว่าการเปิดเบอร์โทรโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการจะเปิดบัญชีกับบางเว็บ อื่นๆอีกมากมาย ให้ลูกค้าส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน กับรูปหน้าของตน (นั้นก็คือเซลฟี้นั่นแหละจ้ะ) เพื่อใช้เพื่อสำหรับการรับรองตัวตน แบงค์เริ่มทำทั้งนี้เพราะอยากลดทุนของการเปิดสาขาจากที่ต่างๆทำให้คนมาใช้บริการออนไลน์แทน ซึ่งจะระบุตัวตนผ่านทางออนไลน์ได้ก็จำเป็นต้องใช้เซลฟี้ร่วมด้วย
สิกข์ซ์กิลล์พูดว่าแม้ว่าจะยังไม่สามารถที่จะเจาะจงที่มาได้ว่าข้อมูลรวมทั้งเซลฟี้พวกนี้ถูกแฮ็กมาจากไหน แม้กระนั้นก็มีความเห็นว่าวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะจับเซลฟี้มาได้ ก็คือการลักขโมยมาจากโทรศัพท์ที่ติดมัลแวร์ แนวทางต่อไปก็บางครั้งก็อาจจะเป็นการแฮ็กเข้าไปในเว็บที่เก็บข้อมูลส่วนตัวต่างๆพวกนี้ ดังที่พวกเราชอบรู้ข่าวกันอยู่เรื่อยว่าเว็บไซต์โน่น เว็บไซต์นี่ ถูกแฮ็ก และก็ข้อมูลของผู้ใช้งานกี่แสนกี่ล้านคนถูกลักขโมยไปนั่นแหละจ้ะ
ในกรณีเซลฟี้ถูกนำไปขายนี้ ผู้ชำนาญกล่าวว่าไม่ต้องวิตกกังวลไปว่าต่อแต่นี้ไปจะโพสต์ภาพตนเองบนโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊กหรืออินสตาเอ็งรมมิได้อีกแล้ว แม้กระนั้นให้เพิ่มความระวังเวลาจะรับรองตัวตนออนไลน์ด้วยการส่งเอกสารและก็รูป ถามคำถามให้แจ่มกระจ่างว่าจะการันตีไปเพื่ออะไร คุ้มหรือเปล่า แล้วก็ชี้แนะว่าอย่าถ่ายรูปตนเองถือหนังสือเดินทาง อย่ามีภาพของบัตรที่ระบุตัวตนของพวกเราเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ข้อมูลพวกนี้ถูกลักขโมยไปพบกวันหนึ่งโทรศัพท์กำเนิดติดมัลแวร์ขึ้นมา
กำลังมีความรู้สึกว่า “เพราะเหตุใดโลกพวกเราถึงอยู่ยากขึ้นเรื่อยขนาดนี้เนี่ย” ใช่ไหมค่ะ? ไม่ผิดหรอกจ้ะ ด้วยเหตุว่ามันอยู่ยากขึ้นจริงๆภัยทางดิจิทัลใหม่ๆเกิดขึ้นได้ตลอดระยะเวลา การที่พวกเราจะใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกให้ชีวิต ก็จะต้องสารภาพว่ามันจะมากับสิ่งแลกเปลี่ยนของการจะต้องรอเล่าเรียนหาข้อมูลเพื่อปกป้องตัวเองแบบไม่หยุดหย่อนด้วย พาไปทัศนศึกษาดาร์ค เว็บไซต์ เพื่อได้เห็นภาพพวกนี้ชัดขึ้น ไม่ต้องตกใจ แม้กระนั้นเพิ่มความรอบคอบ ตั้งคำถามให้มากยิ่งขึ้นเมื่อทำใดๆบนอินเทอร์เน็ต
หายใจลึกๆแล้วกลับออกมาสู่โลกอันสว่างผ่องใสกันได้แล้วจ้ะ
วันนี้จะประสานมือพาทุกคนดำตรงลงไปสู่ห้วงของเว็บไซต์อันมืดมากที่แสงสว่างอะไรก็แล้วแต่ก็ไม่บางทีอาจรุกรานเข้าไปถึง
พวกเราจะไปแอบมอง ดาร์ค เว็บไซต์ กันจ้ะ
ดาร์ค เว็บไซต์ (Dark Web) เป็นเขตหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่คนธรรมดาทั่วไปไม่เห็น เข้าถึงมิได้ เสิร์ชไม่พบด้วยเหตุว่าผิดรวมอยู่ในคำตอบการค้นหา ราวกับสโมสรลึกลับที่ปิดบังประตูปากทางเข้าเอาไว้ให้ไกลหูไกลตาคนธรรมดาทั่วไป ถ้าหากจะย่างกรายเข้าไปก็จำเป็นจะต้องใช้ซอฟท์แวร์พิเศษ ทุกคนบนดาร์ค เว็บไซต์ มีความเป็นนิรนาม ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ใช้งานหรือฝั่งคนทำเว็บไซต์ พิจารณาย้อนกลับไปก็ไม่พบต้นทาง
สถานที่ดำสนิทล่องหนไม่มีตัวตนแบบงี้ เพียงพอจะนึกออกไหมขาว่าเขาเอาไปทำอะไรกัน จริงๆก็คงจะทายใจไม่ยากเลย ตรงไหนมีความนิรนาม ตรงนั้นย่อมตามมาด้วยด้านที่ไม่มีอารยธรรมแล้วก็ดิบที่สุดของผู้คนนั่นแหละ
ของที่ผู้บริโภคขายแลกกันบนดาร์ค เว็บไซต์ โดยมากเป็นของที่ไม่ถูกกฎหมายบนเว็บไซต์ปกติ ยกตัวอย่างเช่น ภาพโป๊เยาวชน สิ่งเสพติด ยาที่ไร้ใบอนุญาต เอกสารเลียนแบบ เงินปลอม อาวุธ อื่นๆอีกมากมาย
ฟังมองแบบงี้แล้วหลังจากนั้นก็บางครั้งอาจจะคิดว่า เอ...ก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับพวกเราสักเท่าไหร่ ใครกันแน่ต้องการทำอะไรก็คือเรื่องของเขาสิ พวกเราอย่าเอาตนเองเข้าไปยุ่งด้วยก็คงจะพอแล้ว แม้กระนั้นโชคร้ายที่มันไม่เป็นเช่นนั้นน่ะสิขา เพราะว่าหนึ่งในชนิดของที่คนกลุ่มนี้เขาค้าขายกันมันดันมาเกี่ยวกับตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งซึ่งก็คือ ข้อมูลส่วนตัวทั้งหลายแหล่ที่ลักขโมยมาจากบนอินเทอร์เน็ตจ้ะ
ข้อมูลส่วนตัวที่แฮ็กเกอร์ได้มาจากการแฮ็กระบบหรือบริการต่างๆเขามิได้นำไปใช้เองสักเท่าไหร่หรอกนะคะ เอาไปขายบนดาร์ค เว็บไซต์ ได้เงินมากมายกว่า คนใดกันแน่จะซื้อถัดไปทำช้างทำม้าอะไรก็ไม่ใช่ธุระของแฮ็กเกอร์แล้ว
พวกเราลองมองราคาของข้อมูลส่วนตัวที่ถูกแฮ็กและจากนั้นจึงนำไปขายต่อบนดาร์ค เว็บไซต์ กันนะคะ ข้อมูลอย่างจำนวนประกันสังคม ขายกันที่ประมาณ1 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ 20 ดอลลาร์ฯ ข้อมูลที่ใช้ล็อกอินเข้าไปบนเว็บเพื่อทำธุรกรรมทางด้านการเงินต่างๆราคาเริ่มตั้งแต่ 20 ไปจนกระทั่ง 200 ดอลลาร์ บัตรเครดิต แบบที่มีตัวเลข CVV สามตัวข้างหลังบัตร ราคาขายที่ 5 ดอลลาร์ หากมีเนื้อหาแบงค์ด้วย ราคาจะเพิ่มเป็น 15 ดอลลาร์ ในเวลาที่ข้อมูลบัตรเครดิตที่ได้มาครบถ้วนสมบูรณ์แบบฟูลแพ็ก ราคาก็จะอัพขึ้นไปมากถึงใบละ 30 ดอลลาร์ วุฒิบัตร 100-400 ดอลลาร์ ข้อมูลบันทึกด้านการแพทย์ของผู้เจ็บป่วย 1-1,000 ดอลลาร์ แล้วก็หนังสือเดินทาง ราคาขายมากที่สุด อยู่ที่ 1,000-2,000 ดอลลาร์เลยนะ
ต้นแบบการค้าขายกันก็มีอยู่ 3 แบบ 1. ซื้อข้อมูลแบบข้อมูลเดียว อย่างเช่น จิ้มซื้อว่าเอาจำนวนประกันสังคมหนึ่งเลข 2. ซื้อแบบก้อนใหญ่ ข้อมูลเหมือนกันแม้กระนั้นซื้อเป็นล็อตใหญ่ แล้วก็ 3. ข้อมูลแบบผูกเหมารวมกันเป็นแพ็กเก็จ ใช้เพื่อการปลอมอัตลักษณ์ หรือปลอมตัวเป็นบุคคลอื่นนั่นแหละจ้ะ
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าตกใจมากมายเมื่อได้ทราบว่านี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เขาซื้อเขาขายกันบนดาร์คเว็บไซต์ ก็คือ “เนื้อหาสาระเกี่ยวกับทารก” จ้ะ
ข้อมูลกล่าวว่าหนึ่งในตลาดมืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนดาร์ค เว็บไซต์ มีการค้าขายจำนวนประกันสังคมของเด็กอ่อน พร้อมๆกับเนื้อหาเกี่ยวกับวันเกิด รวมทั้งชื่อของแม่ด้วย แพ็กเก็จเต็มๆแบบงี้ราคาแพงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันอยู่ที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา รวมทั้งจ่ายในแบบอย่างเงินบิตรอน์ ส่วนผลดีใช้สอยที่ทำให้ข้อมูลทารกมีมูลค่าสูงขนาดนี้เพราะเป็นข้อมูลที่ใหม่มากขาวสะอาดไม่มีความมัวหมอง (ก็แน่สิ พึ่งจะเกิดขึ้นมาได้กี่วันเอง) เพราะฉะนั้นก็เลยเหมาะแก่การนำไปใช้ในลัษณะของการสวมอัตลักษณ์แทน เพื่อนำไปใช้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากรัฐบาล หรือไปทำธุรกรรมการคลังก็ได้
ปิดท้ายด้วยข่าวล่าสุดที่สร้างความงงให้เกิดขึ้นมากกว่า รู้ไหมค่ะว่า เซลฟี้ที่พวกเราชูกล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายหน้าตนเองกันเนี่ย เขาก็จำหน่ายกันบนดาร์ค เว็บไซต์ ด้วย!
บริษัทซิกข์ซ์กิลล์ บริษัทเชื้อชาติอิสราเอลที่ปฏิบัติหน้าที่สำหรับเพื่อการตรวจดาร์ค เว็บไซต์ พบว่ามีการลงข้อมูลขายบนดาร์คเว็บไซต์ภาษารัสเซีย ซึ่งเป็นข้อมูลที่แปลกจากธรรมดา ด้วยเหตุว่าคำประกาศขายบอกว่าเว้นแต่ข้อมูลล็อตนี้จะประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ที่อยู่ แล้ว ก็ยังมีภาพ “เซลฟี้” รวมอยู่ในนั้นด้วย ถือเป็นการประสบพบเห็นการขายของเซลฟี้บนดาร์ค เว็บไซต์ เป็นครั้งแรกอย่างยิ่งจริงๆ
แล้วเอาเซลฟี้ไปทำอะไร? หากมีเพียงแค่ภาพเซลฟี้เฉยๆก็บางทีก็อาจจะมิได้มีสาระอะไรมากมายก่ายกอง แต่ว่าเมื่อเอาไปรวมกับรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ก็อาจส่งผลให้ก่อคดีขึ้นมาได้ ลองคิดดูนะคะว่าช่วงนี้แบงค์บางที่ หรือแม้กระทั้งธุรกิจจำพวกอื่นๆดังเช่นว่าการเปิดเบอร์โทรโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการจะเปิดบัญชีกับบางเว็บ อื่นๆอีกมากมาย ให้ลูกค้าส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน กับรูปหน้าของตน (นั้นก็คือเซลฟี้นั่นแหละจ้ะ) เพื่อใช้เพื่อสำหรับการรับรองตัวตน แบงค์เริ่มทำทั้งนี้เพราะอยากลดทุนของการเปิดสาขาจากที่ต่างๆทำให้คนมาใช้บริการออนไลน์แทน ซึ่งจะระบุตัวตนผ่านทางออนไลน์ได้ก็จำเป็นต้องใช้เซลฟี้ร่วมด้วย
สิกข์ซ์กิลล์พูดว่าแม้ว่าจะยังไม่สามารถที่จะเจาะจงที่มาได้ว่าข้อมูลรวมทั้งเซลฟี้พวกนี้ถูกแฮ็กมาจากไหน แม้กระนั้นก็มีความเห็นว่าวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะจับเซลฟี้มาได้ ก็คือการลักขโมยมาจากโทรศัพท์ที่ติดมัลแวร์ แนวทางต่อไปก็บางครั้งก็อาจจะเป็นการแฮ็กเข้าไปในเว็บที่เก็บข้อมูลส่วนตัวต่างๆพวกนี้ ดังที่พวกเราชอบรู้ข่าวกันอยู่เรื่อยว่าเว็บไซต์โน่น เว็บไซต์นี่ ถูกแฮ็ก และก็ข้อมูลของผู้ใช้งานกี่แสนกี่ล้านคนถูกลักขโมยไปนั่นแหละจ้ะ
ในกรณีเซลฟี้ถูกนำไปขายนี้ ผู้ชำนาญกล่าวว่าไม่ต้องวิตกกังวลไปว่าต่อแต่นี้ไปจะโพสต์ภาพตนเองบนโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊กหรืออินสตาเอ็งรมมิได้อีกแล้ว แม้กระนั้นให้เพิ่มความระวังเวลาจะรับรองตัวตนออนไลน์ด้วยการส่งเอกสารและก็รูป ถามคำถามให้แจ่มกระจ่างว่าจะการันตีไปเพื่ออะไร คุ้มหรือเปล่า แล้วก็ชี้แนะว่าอย่าถ่ายรูปตนเองถือหนังสือเดินทาง อย่ามีภาพของบัตรที่ระบุตัวตนของพวกเราเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ข้อมูลพวกนี้ถูกลักขโมยไปพบกวันหนึ่งโทรศัพท์กำเนิดติดมัลแวร์ขึ้นมา
กำลังมีความรู้สึกว่า “เพราะเหตุใดโลกพวกเราถึงอยู่ยากขึ้นเรื่อยขนาดนี้เนี่ย” ใช่ไหมค่ะ? ไม่ผิดหรอกจ้ะ ด้วยเหตุว่ามันอยู่ยากขึ้นจริงๆภัยทางดิจิทัลใหม่ๆเกิดขึ้นได้ตลอดระยะเวลา การที่พวกเราจะใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกให้ชีวิต ก็จะต้องสารภาพว่ามันจะมากับสิ่งแลกเปลี่ยนของการจะต้องรอเล่าเรียนหาข้อมูลเพื่อปกป้องตัวเองแบบไม่หยุดหย่อนด้วย พาไปทัศนศึกษาดาร์ค เว็บไซต์ เพื่อได้เห็นภาพพวกนี้ชัดขึ้น ไม่ต้องตกใจ แม้กระนั้นเพิ่มความรอบคอบ ตั้งคำถามให้มากยิ่งขึ้นเมื่อทำใดๆบนอินเทอร์เน็ต
หายใจลึกๆแล้วกลับออกมาสู่โลกอันสว่างผ่องใสกันได้แล้วจ้ะ
ส่อง "ดาร์ค เว็บไซต์" ด้านมืดของผู้คน
Reviewed by makemoneyonline-covid19
on
พฤษภาคม 23, 2563
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: